การสำรวจความสนใจของลูก

เด็กแต่ละคนมีความสนใจและพรสวรรค์ที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจชอบศิลปะ บางคนรักการเคลื่อนไหว บางคนสนใจตัวเลข หรือชอบฟังเรื่องราวต่างๆ คุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครองสามารถช่วยสำรวจความสนใจของลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อสนับสนุนและพัฒนาในสิ่งที่เขาชอบ ซึ่งอาจนำไปสู่ทักษะสำคัญในอนาคต

วิธีสังเกตความสนใจของลูก

1.      สังเกตจากของเล่นและกิจกรรมที่ชอบทำ

เด็กแต่ละคนมีของเล่นหรือกิจกรรมที่พวกเขาสนใจเป็นพิเศษ เช่น เด็กที่ชอบต่อบล็อกหรือเลโก้ อาจมีพรสวรรค์ด้านวิศวกรรมและการออกแบบ เด็กที่ชอบวาดรูป ระบายสี อาจมีพรสวรรค์ด้านศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ เด็กที่ชอบฟังนิทานหรือเล่าเรื่อง อาจมีทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร เด็กที่ชอบเต้นหรือวิ่งเล่นกลางแจ้ง อาจมีความสามารถด้านกีฬาและการเคลื่อนไหว

2.      ดูว่าลูกใช้เวลากับอะไรนานที่สุด

หากเด็กสนใจสิ่งใดเป็นพิเศษ เขามักจะทำสิ่งนั้นเป็นเวลานานโดยไม่เบื่อ เช่น อ่านหนังสือได้นาน

ใช้เวลาต่อโมเดลหรือของเล่นอย่างตั้งใจ ฝึกท่าเต้นหรือร้องเพลงซ้ำๆ

3.      สังเกตเวลาที่ลูกมีความสุขที่สุด

ลองดูว่ากิจกรรมไหนทำให้ลูกหัวเราะ ยิ้ม หรือรู้สึกสนุกสนานที่สุด เพราะนั่นอาจเป็นสิ่งที่เขารักจริงๆ

4.      ลองให้ลูกลองทำกิจกรรมที่หลากหลาย

บางครั้งเด็กอาจยังไม่เจอสิ่งที่ตัวเองชอบจริงๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ เช่น พาไปเข้าค่ายศิลปะ ให้ทดลองเล่นเครื่องดนตรี ให้เล่นกีฬาใหม่ๆ จัดกิจกรรมทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ที่บ้าน

5.      พูดคุยและตั้งคำถามกับลูก

บางครั้งเด็กสามารถบอกได้เองว่าสนใจอะไร ลองถามคำถามง่ายๆ เช่น "วันนี้ลูกชอบทำอะไรที่สุด?" "ถ้าให้เลือกทำอะไรก็ได้ ลูกอยากทำอะไร?" "สิ่งไหนที่ทำแล้วลูกมีความสุขมากที่สุด?"

6.      สังเกตพฤติกรรมในโรงเรียน

คุณครูเป็นอีกหนึ่งคนที่สามารถช่วยสังเกตพฤติกรรมของเด็กได้ เช่น เด็กสนุกกับวิชาหรือกิจกรรมอะไรในห้องเรียน เขาชอบทำงานเป็นกลุ่ม หรือชอบทำงานเดี่ยว มีทักษะที่โดดเด่นกว่าเพื่อนหรือไม่

7.      ให้ลูกได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ โดยไม่กดดัน

ไม่ควรบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่ให้เขาได้ทดลองด้วยความสนุกและผ่อนคลาย


วิธีสนับสนุนความสนใจของลูก

1.      ให้อิสระกับลูก

ลองจัดตารางแต่ละวันของลูกให้ยืดหยุ่นมากขึ้น ให้เขาได้มีเวลาคิดกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำ ได้สำรวจอะไรใหม่ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในตาราง และได้มีเวลาเล่น เพราะสำหรับเด็กวัยเรียน การเล่นก็คือการเรียนรู้รูปแบบหนึ่ง การให้พื้นที่กับลูกอาจทำให้ลูกได้ค้นพบความถนัดของตัวเองที่อาจพัฒนามาเป็นความสามารถพิเศษได้

2.      จัดหาสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม

หากลูกชอบวาดรูปควรมีสมุดวาดภาพและสีให้เขาได้ฝึกฝน หากลูกชอบเล่นดนตรี ควรสนับสนุนให้เขาได้เรียนรู้เครื่องดนตรีที่ชอบ

3.      ให้กำลังใจและคำชมเชย

คำพูดเชิงบวก เช่น "ลูกทำได้ดีมาก" หรือ "แม่ภูมิใจในตัวลูก" ช่วยสร้างความมั่นใจให้เด็กกล้าทำสิ่งที่รักต่อไป

4.      ปลูกฝังแนวคิดในการเปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้

ช่วยทำให้ลูกกล้าคิด กล้าทำ กล้าลองอะไรใหม่ ๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้ค้นพบเรื่องที่มีแพสชันได้ง่ายขึ้น หากพบว่าลูกมีพรสวรรค์ด้านใด ควรหากิจกรรมหรือคอร์สเรียนเสริมเพื่อพัฒนา เช่น คอร์สเรียนวาดรูป ค่ายฝึกกีฬาสำหรับเด็ก เวิร์กช็อปการเขียนนิทาน

การสำรวจความสนใจของลูกเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้นพบสิ่งที่ตัวเองรักและสามารถพัฒนาเป็นความสามารถพิเศษในอนาคตได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำสิ่งต่างๆ อย่างอิสระ คอยสังเกตและสนับสนุนในสิ่งที่เขาสนใจ เพื่อให้ลูกเติบโตไปพร้อมกับความสุขและความมั่นใจในตัวเอง

ด้วยความห่วงใย จาก Kiddy Balm